บอกเลยว่าถึงจะชื่อกล้วย แต่สรรพคุณของกล้วยน้ำว้านั้นไม่กล้วยเลยนะ เพราะความพิเศษที่ทำให้กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างจากกล้วยชนิดอื่นๆ ก็คือ โปรตีนที่อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับเราอยู่หลายชนิด โดยเฉพาะมีกรดอะมิโนที่มีชื่อว่า อาร์จินิน และ ฮีสติดีน ซึ่งมีความจําเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทําไมเราถึงนิยมให้เด็กเล็กทานกล้วยน้ำว้าสุกบด เพราะอุดมด้วยสารอาหาร และวิตามินที่จําเป็นต่อร่างกายนั่นเอง
กล้วยน้ำว้าสุก 100 กรัม ให้พลังงาน 122 กิโลแคลอรี
ในกล้วยน้ำว้า 1 ลูก นั้นมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายอยู่ครบถ้วนทั้ง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน และน้ำ รวมไปถึงแคลเซียม จึงมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรง และเจริญเติบโตของร่างกายในวัยเด็ก และช่วยบำรุงร่างกายในวัยผู้ใหญ่ และเมื่อนำไปผ่านความร้อน กล้วยน้ำว้าจะมีปริมาณแคลเซียมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนู กล้วยนึ่ง กล้วยปิ้ง กล้วยบวชชี ซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น 5-6 เท่า
แทนนินในกล้วยน้ำว้า จะพบมากที่สุดที่บริเวณเปลือกของกล้วยน้ำว้าดิบ และเนื้อของกล้วยน้ำว้าดิบ ซึ่งสารแทนนินเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยเคลือบและป้องกันผนังลำไส้ไม่ให้ถูกทำลายโดยเชื้อโรคหรือเอนไซม์ที่มีรสเผ็ดร้อน หากทานกล้วยดิบก่อนทานอาหารจะสามารถช่วยให้อาการแสบท้องของโรคกระเพาะ และแผลในกระเพาะลดน้อยลงได้
สารแทนนินในกล้วยน้ำว้าดิบ ยังมีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องร่วงได้ด้วยเช่นกัน โดยให้นำกล้วยน้ำว้าดิบมาหั่นแล้วตากแห้ง จากนั้นบดเป็นผงแป้ง ชงในน้ำร้อนครั้งละ 10 กรัม ต่อน้ำ 1 แก้ว ดื่มรักษาอาการท้องร่วงได้เลย
กินกล้วยตอนไหน ช่วยขับถ่าย กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีกากใยอาหาร (ไฟเบอร์) อยู่เยอะพอสมควร และเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายในน้ำได้ จึงทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น และกล้วยยังเป็นผลไม้น้ำตาลต่ำ สามารถกินครั้งละ 1-2 ผลได้โดยที่ไม่ต้องกลัวอ้วน และหากจะกินกล้วยน้ำว้าแก้ท้องผูก ให้กินกล้วยน้ำว้าสุกกลางๆ ไม่งอมเกิน ไม่ห่ามเกิน ทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง หรือก่อนนอน เป็นประจำทุกวัน
ต่อเนื่องจากด้านบน คือ กล้วยน้ำว้าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ซึ่งไม่เพียงแต่แก้ท้องผูกได้เท่านั้น แต่ไฟเบอร์ในกล้วยน้ำว้ายังเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (เพกติน) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเมือกในลำไส้ ทำให้อุจจาระอ่อนนิ่มลง ขับถ่ายง่าย ไม่เจ็บริดสีดวงทวาร ด้วยเหตุนี้จึงช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวารไม่ให้เป็นหนักไปกว่าเดิม
ในกล้วยน้ำว้ามีสารฟลาโวนอยด์ ที่มีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบ และลดอาการปวดข้อเข่า เป็นต้น ซึ่งสารฟลาโวนอยด์ในกลุ่มผลไม้ที่มีเนื้อสีขาวอย่างกล้วย ก็มีอยู่ในกล้วยทุกชนิด
กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮีโมโกลบินในเลือด จึงสามารถช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้ และยังช่วยให้พลังงานกับผู้ที่อ่อนแรงได้ด้วย
สำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือลดความอ้วน การทานกล้วยน้าว้าจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นาน โดยที่ไม่ทำให้อ้วน เพราะกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง แต่มีปริมาณไขมัน และน้ำตาลอยู่น้อย (กล้วยน้ำว้า 1 ผล มีน้ำตาลประมาณ 3-5 กรัม) หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะจะทำให้สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้
กล้วยน้ำว้าสามารถป้องกันการเป็นโรคเบาหวาน และช่วยควบคุมน้ำตาลได้ เพราะในกล้วยน้ำว้าสุกมีดัชนีน้ำตาลที่ต่ำ การทานกล้วยน้ำว้าสุก จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลอย่างช้าๆ กล้วยน้ำว้าจึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
โพแทสเซียมในกล้วยน้ำว้า จะเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้การระบบเต้นของหัวใจทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกซิเจนไปยังสมอง และปรับสมดุลน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย เมื่อใดที่เราเกิดความเครียดระดับโพแทสเซียมในร่างกายจะลดน้อยลด การทานกล้วยน้ำว้าจะเข้าไปช่วยปรับสมดุล และทำให้เรารู้สคกดีขึ้นได้
เปลือกของกล้วยน้ำว้าสุก มรฤทธิ์ช่วยแก้ผื่นคันที่ผิวหนัง ทั้ง แมลงสัตว์กัดต่อย ไม่ว่าจะเป็นยุงกัด มดกัด หรือเป็นผื่นคันจากลมพิษ สามารถใช้เปลือกกล้วยน้ำว้าสุกด้านในทาบริเวณที่เป็นประมาณครึ่งนาที อาการคันจะลดลง และเปลือกกล้วยยังมีฤทธิ์ในการต้าน เชื้อราและแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ด้วย
กล้วยน้ำว้า สามารถช่วยระงับกลิ่นปากได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยวิธีการคือ ให้กินกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนทันที 1 ลูก แล้วค่อยแปรงฟัน จะช่วยลดกลิ่นปากให้เบาลงได้มาก
ขอบคุณบทความและภาพจาก
ข้อมูลอ้างอิง : กรมประชาสัมพันธ์ , https://www.scimath.org/ , http://otop.dss.go.th/