ช่วงนี้เห็นพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทำอาหารกินเอง โชว์ฝีมือเชฟกันเต็มโซเชียล มีเดีย จึงคิดว่าน่าจะมีหลายคนที่อยากได้พืชผักผลไม้สดๆ ส่งตรงถึงบ้าน ยิ่งเมื่อได้ข่าวว่ามีแพลตฟอร์มสำหรับซื้อ-ขาย ‘สินค้าเกษตร’ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลายจึงนำมาบอกต่อ เพราะนอกจากผู้สนใจจะได้ช็อปผลผลิตแบบ ‘รู้แหล่งปลูก’ แล้ว ยังช่วยระบาย ‘สินค้าเกษตร’ ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด–19 ระบาด เป็นการสร้างโอกาสในวิกฤตให้เกษตรกรไทยในอีกรูปแบบหนึ่งตลาดเกษตรออนไลน์
โอกาสในวิกฤตของ ‘สตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย’
แพลตฟอร์มที่กล่าวถึงข้างต้นแบ่งออกเป็น 4 ระบบ ได้แก่ 1) ระบบเจ้าของร่วมผลิต 2) ระบบการประมูลสินค้าเกษตร 3) ระบบตลาดออนไลน์ หรือที่เรียกว่า มาร์เก็ตเพลส และ 4) ระบบการขายออนไลน์ในรูปแบบ B2B และ B2C โดย 4 ระบบนี้เป็นของ 7สตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เนื่องจากในสถานการณ์โรคระบาด หลายประเทศถูก Lockdown/Shutdown สินค้าเกษตรไทยจึงถูกบล็อกการจัดส่งไปโดยปริยาย และเมื่อส่งออกไปยังต่างประเทศไม่ได้ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยกระจายผลผลิตให้แก่คนในประเทศจึงเหมาะเจาะที่สุดในเวลานี้

1
ระบบเจ้าของร่วมผลิต
- ฟาร์มโตะ (FARMTO) ช่องทางการขายผลผลิตเกษตรรูปแบบใหม่ที่เชื่อมเกษตรกรและผู้บริโภคเข้าหากันผ่านวิธีการร่วมเป็นเจ้าของผลผลิตการเกษตร เพื่อให้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ช่วยเหลือและดูแลคุณภาพผลผลิตไปด้วยกัน


หากผู้บริโภคต้องการตรวจสอบผลผลิตก็สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมและติดตามขั้นตอนต่างๆ ได้ เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ และเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว เกษตรกรจะจัดส่งผลผลิตให้ผู้บริโภคตามที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้ รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้ตั้งราคาขายผลผลิตด้วยตัวเองเพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้สินและราคาผลผลิตตกต่ำ ทำให้เกษตรกรได้พัฒนาตัวเองและเรียนรู้ที่จะสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองในอนาคต นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถนำแนวคิดดังกล่าวมาต่อยอดใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรได้อีกด้วย
2
ระบบการประมูลสินค้าเกษตร (E-biding)
- ครอปเปอร์แซด เป็นแพลตฟอร์มที่จะทำให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าถึง ‘ข้อมูลความต้องการของตลาด’ และช่วยยกระดับภาคธุรกิจให้สามารถพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ควบคุมราคา และปริมาณได้ตรงตามความต้องการของตลาด

และทำให้สามารถทราบว่าจะมีพืชเกษตรชนิดใดออกช่วงไหน โดยข้อมูลนี้จะช่วยสนับสนุนการสร้างตลาดกับกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะโรงงานแปรรูปที่ต้องการวัตถุดิบเข้าสู่สายการผลิต ซึ่งจะทำให้ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการมีผลผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง
3
ระบบตลาดออนไลน์ (Marketplace)
แหล่งรวบรวมสินค้าสินค้าของเกษตรกรที่มีคุณภาพ ส่งต่อให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง
- มีแซ่ด (MeZ) ศูนย์กลางเชื่อมโยงและแบ่งปันผลไม้คุณภาพจากเกษตรกร ที่พร้อมส่งผลไม้จากสวน ผ่านการคัดสรรและใส่ใจในทุกขั้นตอนการเพาะปลูก


-
เอิร์ทออร์แกนิก (Earth Organic) มุ่งเน้นที่กลุ่มสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ มีการควบคุมคุณภาพแบรด์สินค้าร่วมกับเกษตรกร เน้นอัตลักษณ์จากท้องถิ่น ส่งตรงถึงผู้บริโภคด้วยการขนส่งที่มีคุณภาพ


4
ระบบการขายออนไลน์ส่งมอบให้ผู้บริโภคและธุรกิจเกษตร (B2B/B2C)
-
ฟาร์มบุ๊ค (Farmbook) เป็นตลาดเกษตรออนไลน์ที่มีระบบนิเวศสังคมเกษตรให้แก่เกษตรกรผู้ผลิต ผู้ให้บริการ ผู้จัดจำหน่าย ผู้ซื้อ และผู้ปริโภค มารวมตัวกันเพื่อสร้างการเชื่อมโยงหลากหลายด้าน (Multisided Markets)โดยสามารถเชื่อมกลุ่มคนจากทั่วทุกมุมโลกที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตไว้ด้วยกันได้ รวมทั้งยังมีข้อมูลตลาดที่ชัดเจน ทุกขั้นตอนในการซื้อ-ขายจึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ


-
เฟรชเก็ต (Freshket) (บางคนอาจจะคุ้นชื่อหรือเคยสั่งซื้อไปแล้ว) เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมและจำหน่ายอาหารสดในรูปแบบของ ‘ตลาดสดออนไลน์สำหรับร้านอาหารและผู้บริโภค’ โดย สามารถเชื่อมต่อกับร้านอาหารและผู้บริโภคได้ตลอด 24 ชั่วโมง




- เนเจอร์ ฟู้ด (Naturefood) แอปพลิเคชันสำหรับการซื้อขายข้าวอินทรีย์และสินค้าเกษตรปลอดภัย ซึ่งมีบริการส่งถึงบ้านและบริการส่งออกทั่วโลกแบบ One Stop Service ทั้งยังมีการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA เพื่อร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าตกต่ำ ช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรกร รวมถึงช่วยให้ผู้บริโภคปลายทางมีสุขภาพที่ดีด้วย
ขอบคุณภาพและบทความจาก
https://www.salika.co/2020/05/04/thai-startups-platform-online-for-agricultural-product/
By
Phatphicha Lerksirinukul