ชื่อภาษาอังกฤษ Canna Lily, India Short Plant, India Shoot, Bulsarana
ชื่อวิทยาศาสตร์ Canna indica L.
ชื่ออื่นๆ บัวละวงศ์, พุทธศร, สาคูหัวข่า, สาคูมอญ, ปล้ะย่ะ, กวงอิมเกีย เซียวปาเจีย มุยหยิ่งเจีย, เหม่ยเหยินเจียว เสี่ยวปาเจียว
วงศ์ CANNACEAE
พุทธรักษาเป็นไม้ดอกที่มีความเป็นมาอันยาวนาน มีความเชื่อมโยงกับศาสนาและวัฒนธรรมค่อนข้างมาก เดิมทีเป็นพันธุ์ไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไปก่อนจะค่อยๆ ลดปริมาณลง กระทั่งกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งจากบรรดานักจัดสวน หลังจากการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความแปลกใหม่มากขึ้น จุดเด่นอยู่ที่สีสันของดอกที่หลากหลายและยังสามารถเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ได้เองโดยไม่ต้องดูแลอะไรนัก ยิ่งกว่านั้นพุทธรักษายังมีสรรพคุณทางยาแทบทุกส่วนของลำต้น และยังเป็นไม้มงคลที่ควรปลูกไว้ในบริเวณบ้านอีกด้วย
หลายคนอาจเข้าใจว่าพุทธรักษาเป็นเพียงไม้ดอกไม้ประดับทั่วไปที่ให้เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่อันที่จริงแทบทุกส่วนของต้นพุทธรักษาเป็นสมุนไพรให้สรรพคุณทางยาหลายอย่าง ส่วนแรกที่ถูกนำมาใช้ค่อนข้างบ่อยก็คือส่วนเหง้า เราสามารถนำเหง้าสดมาต้มน้ำดื่มครั้งละแก้ว ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ ก็จะช่วยบรรเทาอาการของโรคตับอักเสบในระยะต้นจนหายดีได้ สูตรเดียวกันนี้ยังมีประโยชน์ต่อการปรับสมดุลของผู้หญิงด้วย คนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีปัญหาเรื่องตกขาว ก็สามารถใช้เหง้าพุทธรักษาบรรเทาอาการได้ แม้แต่ส่วนดอกที่มีสีสันสดใสก็ยังนำมามใช้ประโยชน์แบบง่ายๆ ด้วยการบดละเอียดแล้วพอกแผลสดเพื่อช่วยห้ามเลือด ตลอดจนบรรเทาอาการแผลอักเสบที่มีหนองได้ด้วย
สมัยก่อนพุทธรักษาเป็นไม้ประดับที่พบเห็นได้แทบทุกหลังคาเรือน แม้แต่ในพื้นทีราชการหรือสวนสาธารณะก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะดอกพุทธรักษาเป็นดอกไม้ที่มีความหมายมงคลหลายอย่าง ทั้งเป็นสัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ และสื่อถึงความร่มเย็นที่ได้จากความคุ้มครองของพระพุทธเจ้าด้วย การปลูกไว้ในรั้วบ้านก็มีความเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าภัยอันตรายทั้งปวงและทำให้ครอบครัวมีแต่ความสงบสุข
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเกี่ยวกับการปลูกพุทธรักษาในเขตรั้วบ้าน ก็คือควรอยู่ห่างจากตัวบ้านค่อนข้างมากและมีพื้นที่รองรับสำหรับการแตกหน่อที่รวดเร็ว อย่างน้อยก็เพื่อให้การเข้าตัดแต่งกอทำได้อย่างสะดวก ในส่วนของการปลูกเพื่อเสริมสิริมงคล แนะนำให้ปลูกทางทิศตะวันตกของที่ดิน และจะดียิ่งขึ้นถ้าคนเกิดวันพุธเป็นผู้ลงมือปลูกด้วยตัวเอง
ความจริงแล้วพุทธรักษามีจำนวนสายพันธุ์ค่อนข้างมาก ซึ่งหลายสายพันธุ์มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย หากไม่สังเกตก็อาจแยกไม่ออกด้วยซ้ำ จึงขอยกตัวอย่างมาเพียงบางส่วนที่มีความโดดเด่นและเป็นสายพันธุ์ยอดนิยมเท่านั้น
เราสามารถขยายพันธุ์พุทธรักษาได้ทั้งวิธีแยกหน่อและเพาะเมล็ด แต่เนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีระยะการแตกหน่อที่ค่อนข้างเร็ว วิธีแยกหน่อจึงได้รับความนิยมมากกว่า เพียงแค่ต้องรอให้ต้นแม่แตกหน่อออกมาก่อน พอหน่ออ่อนยืดสูงได้ระยะหนึ่งแล้วจึงทำการขุดแยกหน่อออกมา แต่เนื่องจากพุทธรักษาเป็นไม้เนื้ออ่อน มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและแตกเปราะง่าย การตัดเหง้าจำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งต้นแม่และต้นอ่อน หลังขุดเหง้าให้กลบดินต้นแม่ได้ทันที แต่ต้นอ่อนจะต้องปลูกตามลักษณะสายพันธุ์ บางสายพันธุ์จะปลูกลงดินได้ทันทีเช่นกัน แต่บางสายพันธุ์จะต้องนำมาเพาะลงในทรายและตั้งไว้ในที่ร่มเพื่อให้ต้นกล้าฟื้นตัวดีเสียก่อน แล้วค่อยปลูกลงดินอีกครั้ง ส่วนดินที่ใช้ขอให้เป็นส่วนผสมที่มีความร่วนซุยก็เพียงพอ
การใช้สารเคมีฉีดพ่นเพื่อกำจัดเชื้อราในระยะที่ลุกลามมากไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไรนัก เพราะสุดท้ายพุทธรักษาก็จะแห้งตายไปอยู่ดี ทั้งยังทิ้งสารตกค้างในบริเวณนั้นอีกด้วย วิธีการที่ดีกว่าจึงเป็นการป้องกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ ด้วยการจำกัดเรื่องการให้น้ำ อย่าปล่อยให้มีความชื้นแฉะจนเกินไป พร้อมกับหมั่นตัดแต่งส่วนของใบและลำต้นที่มีสัญญาณของโรค นอกจากนี้ก็สามารถใช้ยาพ่นกันเชื้อราในขณะที่ต้นยังสมบูรณ์แข็งแรงอยู่ได้ด้วย
แม้ว่าในบ้านเราจะยังไม่ได้เห็นกระแสความนิยมของต้นพุทธรักษาที่ชัดเจนนัก แต่พันธุ์ไม้ชนิดนี้เป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดต่างประเทศ ทั้งแถบเอเชียและยุโรป เกษตรกรที่เพาะปลูกกล้าพุทธรักษา และสามารถดูแลให้มีลำต้นสมบูรณ์สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนก็สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง บางแห่งจะมีลูกค้ามารับซื้อเองถึงสวนด้วยเรทราคาที่ค่อนข้างดี สิ่งที่เกษตรกรต้องทำมีเพียงแค่จัดเตรียมการแพ็คให้แข็งแรงและป้องกันกล้าไม้ได้ดีที่สุดก็พอ นอกจากนี้ เกษตรกรที่ไม่สะดวกจะขายกล้าพันธุ์ ก็สามารถขายเมล็ดโดยชั่งตามน้ำหนักได้ อย่างเกษตรกรที่ต้องสู้ภัยแล้วในจังหวัดสกลนคร ก็หาทางออกด้วยการปลูกพุทธรักษาแล้วเก็บเกี่ยวเมล็ดส่งประเทศใต้หวัน ซึ่งแต่ละรอบการจัดส่งก็สร้างรายได้เกือบหลักแสนเลยทีเดียว
arit.kpru.ac.th
www.rspg.or.th
และ https://kaset.today