วัฒนธรรมการกินอาหารแมลง สำหรับคนไทยนั้นเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในอดีตที่เราคุ้นชินกันมานานแสนนาน เกิดจากการสั่งสมเรียนรู้และผ่านการสังเกต ลองผิดลองถูก จนสามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้ การกินอาหารแมลงนั้นพบว่ามีมานานแล้ว โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งแมลงบางชนิดหน้าตาอาจไม่น่ากินสักเท่าไหร่ แต่กลับมีราคาแพง ซื้อขายกันกิโลกรัมละหลายร้อยจนถึงหลายพันบาท
หลายคนคิดว่าแมลงไม่น่าจะเป็นอาหารได้ แต่บางคนบอกว่า แมลงบางชนิดนอกจากมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีคุณค่าเทียบเท่าหรือมากกว่าเนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อวัว เลยทีเดียว
แมงมัน หากไปถามคนเหนือทุกคนต้องบอกว่ารู้จัก และคุ้นหูกันอย่างแน่นอน แมงมัน คือมดชนิดหนึ่ง ที่จะออกมาจากพื้นดินหรือโพรงที่มันอาศัยอยู่เพียงครั้งเดียวในรอบ 1 ปี เท่านั้น และมดชนิดนี้มีการซื้อ-ขาย กันในราคาที่ค่อนข้างแพงมาก ซึ่งราคาในท้องตลาดในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน ด้วยเพราะ แมงมัน เป็นมดที่ค่อนข้างจะหายาก ไม่ได้พบเห็นได้โดยทั่วไปๆ

แมงมัน…ทรัพย์ในดินของคนเมือง
แมงมัน…มีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่เป็นที่นิยมกินกันมากทางภาคเหนือ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารชั้นเลิศที่หายาก และราคาแพงมาก
แมงมัน มักชอบอาศัยอยู่ใต้ดินเป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง ชอบดินแข็ง และชอบอยู่ใกล้รากไม้ใหญ่ๆ คล้ายปลวก แต่ไม่ก่อดินหรือพูนดินขึ้นเป็นจอมปลวก ในรอบ 1 ปี แมงมันจะออกมาจากรูเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เมื่อน้ำฝนซึมลงไปในดินทำให้แมงมันอยู่ไม่ได้ จึงออกจากรูขึ้นมาอยู่บนผิวดิน
แมงมัน จะไม่ย้ายรังหากไม่ถูกรบกวนจากคน ซึ่งก่อนที่ลูกแมงมันจะออกมาจากรูได้นั้น แม่แมงมันต้องออกมาก่อน (ลูกแมงมันตัวโตกว่า) ดังนั้น แม่แมงมันต้องขยายขนาดของรูให้กว้างขึ้นเสียก่อน ลูกแมงมันจึงจะออกมาจากรูมาได้


แมงมัน ลักษณะจะคล้ายๆ กับ แม่เป้งมดแดง แต่จะสีแดงและตัวใหญ่กว่า ส่วนมากมักนิยมนำไปคั่วหรือทอดในน้ำมันให้กรอบๆ มีรสชาติมันๆ อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน ซึ่งกว่าที่แมงมันอันแสนอร่อยจะเจริญเติบโตเต็มวัยกลายมาเป็นเมนูต่างๆ ให้เราได้กินกันนั้น ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
- แม่แมงมัน (มดชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กมากๆ จนมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น สีส้มๆ เวลากัดจะคันมากๆ) และมักจะมีการวางไข่ไว้ในโพรงใต้ดิน
- หลังจากแม่แมงมันวางไข่เสร็จแล้ว ไข่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะมีขนาดเล็กและฟักออกมาเป็นแม่แมงมันตัวเล็กๆ ส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นไข่ขนาดใหญ่ (เหมือนไข่มดแดง) จะเจริญเติบโตกลายเป็นดักแด้และเปลี่ยนเป็นแมงมัน
- เมื่อฝนแรกมาถึงและดินเปียกน้ำ แมงมันที่โตเต็มวัยจะพากันกัดรูดินและโผล่ออกมาจากโพรงดิน จากนั้นก็จะบินไปตอมแสงไฟ เพื่อผสมพันธุ์กับแมงมันตัวผู้ (แมงมันคาตัวสีเหลืองๆ มีขนาดเล็กกว่าและกินไม่ได้) หลังจากนั้นแมงมันตัวเมีย (แมงมันก่ำ) ก็จะสลัดปีกออกแล้วขุดดิน และมุดเข้าไปอยู่ในดินเพื่อวางไข่แล้วก็จะตายไป สำหรับแมงมันตัวผู้นั้นจะตายตั้งแต่ตอนผสมพันธุ์เสร็จใหม่ๆ แล้ว
แมงมันตัวเมีย มีสีแดงคล้ำ ตัวใหญ่ มีรสมัน นิยมนำมากินเป็นอาหาร เรียกกันว่า แมงมันแม่
แมงมันตัวผู้ มีสีเหลือง ตัวเล็กกว่าแมงมันตัวเมีย ไม่นิยมกินกัน เพราะมีรสขม มักเรียกกันว่า แมงมันปู๊ หรือ แมงมันคา